การนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ปัญหา
การนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ปัญหา
เทคโนโลยีที่ถ่ายทอด
1. ศาสตร์พระราชา เพื่อให้เกษตรกรเกิดแรงบันดาลใจและแนวคิดในการทำเกษตรวิถีอินทรีย์ เป็นแนวคิดเรื่อง 23 หลักการทรงงานและเกษตรทฤษฎีใหม่
2. การวิเคราะห์สภาพดิน เพื่อทราบชนิดของดินและธาตุอาหาร หลังจากนั้นจะได้ใส่ปุ๋ยชีวภาพเพิ่มปรับธาตุอาหารให้เหมาะสมกับพืชที่ต้องการปลูก หรือแนะนำเกษตรกรว่าควรปลูกชนิดใด
3. การวางแผนการเพาะปลูก เพื่อให้เกษตรกรมีการปลูกผักหมุนเวียน และเพียงพอกับความต้องการของตลาด
4. การปลูกพืชด้วยวัสดุปลูกไร้ดิน ที่ใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น ชานอ้อย เนื่องจากบริษัทน้ำตาลสิงห์บุรี (เครือมิตรผล) มีชานอ้อยเหลือจากการผลิตน้ำตาลจำนวนมาก ซึ่งต้นทุนต่ำกว่าวัสดุชนิดอื่น ๆ ในพื้นที่ มาผ่านกระบวนหมักร่วมกับมูลสัตว์ที่มีอยู่ในพื้นที่ให้ย่อยสลาย แล้วนำไปเป็นวัสดุปลูกพืช
5. การปลูกพืชแบบยกชั้น และทำบล็อกแปลงปลูกพืช เป็นเทคโนโลยีของประเสริฐออแกนิกฟาร์มและสิงห์บุรีรัมย์ เกษตรฟาร์ม ในการแก้ปัญหาดินไม่ดี โดยการปรุงดินให้เหมาะสมแล้วนำมาใส่ในแปลงหรือบล็อก ส่วนการปลูกพืชแบบยกชั้นเหมาะสำหรับผู้สูงอายุและการดูแลวัชพืช การเก็บเกี่ยว
6. การใช้สารชีวภัณฑ์นการกำจัดศัตรูพืชเป็นความรู้ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช และการป้องกันการระบาดของศัตรูพืช เช่น การทำน้ำส้มควันไม้ การทำเชื้อบิวเวอเรี่ย เป็นต้น
7. การผลิตปุ๋ย น้ำหมัก จุลินทรีย์ ที่ใช้วัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น มูลวัว มูลเป็ด มูลไก่ มูลไส้เดือน เป็นต้น
8. การแปรรูปผลิตภัณฑ์ เช่น การทำน้ำมะนาว การทำแยมจากผักผลไม้
9. การขอมาตรฐานรับรอง ได้แก่ GA, PGS, Organic Thailand
นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการถ่ายทอดคงามรู้ด้านการวางแผนการตลาดเพื่อรองรับผลผลิต ที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มมูลค่าผักตบชวา เพื่อเตรียมการสู่การดำเนินการในปี พ.ศ. 2564
หมู่บ้าน ๙ เพ (ร) าะสุข
ตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ จังหวัดสิงห์บุรี (คิดทำรอด “ก่อน” คิดทำรวย)
หมู่บ้าน ๙ เพ (ร) าะสุข เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จากการสนับสนุนโดย คลินิคเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ กศน.อำเภอบางระจัน และประเสริฐออแกนิกส์ฟาร์ม โดยแนวคิดเริ่มแรกเกิดจากชาวบ้านตำบลไม้ดัด ซึ่งมีการรวมกลุ่มชื่อว่ากลุ่มครัวเรือนอาสา และมีพื้นที่ในการทำการเกษตร แต่ยังขาดความรู้ในการทำเกษตรปลอดภัยแบบครบวงจรและขาดมาตรฐานรับรอง ซึ่งตรงกับนโยบายของจังหวัดสิงห์บุรี ที่สนับสนุนให้ทำเกษตรปลอดภัยแบบครบวงจร รวมทั้งยังมีภาคเอกชนให้การสนับสนุนในการทำกิจกรรม ดังนั้น โครงการนี้จึงถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นของสมาชิกกลุ่มที่เริ่มจากศูนย์ หลังจากนั้นจึงเปิดรับสมัครสมาชิกที่สนใจเข้าร่วมโครงการหมู่บ้านต้นแบบ โดยตั้งชื่อหมู่บ้านว่า หมู่บ้าน ๙ เพ (ร) าะสุข โดยที่มาของ ๙ เพ (ร) าะสุข มีความหมายมาจาก “๙” คือ การน้อมนำศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ มาปฏิบัติ และ “เพ (ร) าะสุข” มาจากสองความหมาย ความหมายแรก หมายถึง “เพาะ” ปลูกพืชผัก ด้วยความสุข และความหมายที่สอง หมายถึง “เพราะ” ทำเพราะมีความสุขในการทำ เป้าหมายของโครงการคือต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือลดรายจ่าย และ อยู่ดีมีสุข น้อมนำหลักปรัชญาเกษตรทฤษฎีใหม่มาประยุกต์ใช้ และเน้น คิดทำรอด “ก่อน” คิดทำรวย โดยดำเนินการถ่ายทอดความรู้ในเรื่อง ศาสตร์พระราชา เกษตรธรรมชาติ การทำวัสดุปลูก การปลูกผักโดยวิธียกแปลงและทำชั้น การทำปุ๋ยหมักธรรมชาติ การทำสมุนไพรไล่แมลง/สารชีวภัณฑ์ และการใช้เทคโนโลยีในการบันทึกข้อมูลการเพาะปลูก
ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด ๕๑ คน โดยหลังจากเรียนรู้จนสามารถผลิตพืชผลทางการเกษตรแบบปลอดภัยแบบครบวงจรได้ ทางกลุ่มสมาชิก หมู่บ้าน ๙ เพ (ร) าะสุข ยังได้เรียนรู้เรื่องการตลาด และได้รับความอนุเคราะห์พื้นที่ในการเปิดร้านขายของจากวัดม่วงชุม ตำบลไม้ดัด ในการเปิดตลาดชุมชนสำหรับสินค้าเกษตรปลอดภัย ชื่อตลาด “๙ เพ (ร) าะสุข” เปิดขายทุกวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น. เป็นต้นไป สามารถมาอุดหนุนสินค้ากลุ่มเกษตรกรจาก หมู่บ้าน ๙ เพ (ร) าะสุข ได้นะคะ
อ.กิตติวัลย์ ทองอร่าม ผู้เขียน